สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
เมนู 33
|
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๓๔ / เรื่องที่ ๒ เพลงพื้นบ้าน / ประวัติความเป็นมาของเพลงพื้นบ้าน
ประวัติความเป็นมาของเพลงพื้นบ้าน
ประวัติความเป็นมาของเพลงพื้นบ้าน
ในสมัยอยุธยา
มีหลักฐานกล่าวถึงเพลงพื้นบ้านเป็นครั้งแรกในกฎมณเฑียรบาล
ที่ตราขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
มีการกล่าวถึงเพลงชนิดหนึ่งเรียกว่า เพลงเรือ
เป็นเพลงที่ชายหญิงร้องเล่นในเรือ ซึ่งประกาศมิให้มาร้องในท่าน้ำสระแก้ว
และใกล้เขตพระราชฐานที่กำหนดไว้
ต่อมา
สมัยอยุธยาตอนปลาย ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศมีเพลงชื่อว่า
เพลงเทพทอง ปรากฏในหนังสือเรื่อง "ปุณโณวาทคำฉันท์" ของพระมหานาค ดังนี้
"เทพทองคนองเฮ ชนเปรประดับสรวล โต้ตอบก็ไป่ควร ประถ้อยแถลงกัน"
จนถึงสมัยธนบุรี
กล่าวถึงเพลงเทพทอง ดังปรากฏหลักฐานการมหรสพในงานพระเมรุใหญ่ ๒ งาน คือ
งานพระเมรุพระอัฐิกรมพระเทพามาตย์ พระพันปีหลวง พ.ศ. ๒๓๑๙ ว่า มีเทพทอง ๒
โรง และงานพระเมรุกรมขุนอินทรพิทักษ์ มีเทพทอง ๑ โรง
สมัยรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ ๑
ครั้งจัดงานฉลองพระแก้วมรกตและพระบาง ใน พ.ศ. ๒๓๒๕ นั้น การมหรสพสมโภชมีเพลงพื้นบ้านอยู่ ๒ ชนิด คือ เพลงปรบไก่ และเพลงเทพทอง
สมัยรัชกาลที่
๒
เพลงปรบไก่ยังเป็นมหรสพที่ใช้ในงานสมโภชพระยาเศวตกุญชรที่ได้มาจากเมืองโพธิสัตว์
เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๕ และสมัยรัชกาลที่ ๓ ปรากฏหลักฐานดังใน "โคลงพระราชพิธีทวาทศมาส" กล่าวถึงงานลอยกระทงว่า มีการเล่นเพลงสักวา เพลงครึ่งท่อน เพลงปรบไก่ และดอกสร้อย
ต่อมา
ในรัชกาลที่ ๔
เกิดกระแสความนิยมแอ่วลาว จึงทรงออกประกาศห้ามเล่นแอ่วลาวขึ้น เมื่อ พ.ศ.
๒๔๐๙ และทรงขอให้ฟื้นฟูเพลงครึ่งท่อน เพลงปรบไก่ เพลงสักวา เพลงไก่ป่า
เพลงเกี่ยวข้าว ขึ้นใหม่ ครั้นถึงรัชกาลที่ ๕
มีการประสมเพลงฉ่อยเข้ากับละครรำ เกิดเพลงพื้นบ้านชนิดใหม่เรียกว่า
เพลงทรงเครื่อง
หรือเพลงส่งเครื่อง นับตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ ถึงรัชกาลที่ ๗
เพลงพื้นบ้านยังเป็นมหรสพที่ได้รับความนิยมไม่แพ้มหรสพอื่นๆ
เมื่อจอมพล
ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นสมัยเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม
เกิดความเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมอย่างมาก รัฐบาลควบคุมการละเล่นพื้นบ้าน ใน
พ.ศ. ๒๔๘๖ กรมศิลปากรได้กำหนดระเบียบการควบคุมการละเล่นพื้นบ้าน
ให้อยู่ในกฎเกณฑ์บังคับ ส่งผลให้พ่อเพลงแม่เพลงไม่สามารถว่าเพลงได้ดังเดิม
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการรำวง อาทิ
บังคับให้ข้าราชการฝึกซ้อมรำวงทุกบ่ายวันพุธ และให้รำวงในโอกาสต่างๆ
การรำวงจึงแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ส่วนเพลงพื้นบ้านดั้งเดิมก็ค่อยๆ
เสื่อมความนิยมลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา |
|