สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
เมนู 6
|
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๖ / ความน่าจะเป็น / กำเนิดของวิชาความน่าจะเป็น
กำเนิดของวิชาความน่าจะเป็น
กำเนิดของวิชาความน่าจะเป็น
เมื่อ
พ.ศ. 2197
ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา
ทางประเทศฝรั่งเศสได้มีนักพนันที่มีชื่อเสียงผู้หนึ่งชื่อ
เชอวาลิเยร์ เดอ เมเร (Chevalier de mere)
ได้ประสบปัญหาในการพนันที่เกี่ยวกับการทอดลูกเต๋า
เขาไปปรึกษากับนักคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่สมัยนั้น คือ ปาสกาล
ซึ่งจากคำอธิบายของปาสกาลนี้เอง
ที่ทำให้โลกได้จารึกจุดเริ่มต้นของวิชาความน่าจะเป็นไว้
ในที่นี้จึงจะขอกล่าวถึงปัญหาเริ่มแรกทั้งสองนี้
ปัญหาที่ 1
การทอดลูกเต๋า 1 ลูกและ 2 ลูก
ในการทอดลูกเต๋า 1 ลูก 4 ครั้ง เชอวาลิเยร์พนันว่า
ลูกเต๋าจะต้องหงายหน้าหกอย่างน้อย 1 ครั้ง และเมื่อทอดลูกเต๋าได้ 4 ครั้ง
ก็ปรากฏว่า เป็นจริงตามที่พนันไว้ เขาจึงพนันต่อไปว่า ถ้าทอดลูกเต๋า 2 ลูก
24
ครั้ง ลูกเต๋าจะหงายหน้าหกทั้ง 2 ลูก อย่างน้อย 1 ครั้ง แต่เมื่อ ทอดครบ
24 ครั้ง ปรากฏว่า ไม่จริง ปาสกาลได้อธิบายให้ทราบดังนี้
ในการทอดลูกเต๋า 1 ลูก 1 ครั้ง
ความน่าจะเป็นที่ลูกเต๋าจะหงายหน้าหกคือ 1/6
ในการทอดลูกเต๋า 1 ลูก 1 ครั้ง
ความน่าจะเป็นที่ลูกเต๋าจะหงายหน้าอื่นคือ 5/6
การที่ลูกเต๋าหงายหน้าหกอย่างน้อย 1 ครั้ง นั้นคือ
การที่ลูกเต๋าหงายหน้าหกจำนวน 1 ครั้งใน 4 ครั้ง
หรือ การที่ลูกเต๋าหงายหน้าหกจำนวน 2 ครั้งใน 4 ครั้ง
หรือ การที่ลูกเต๋าหงายหน้าหกจำนวน 3 ครั้งใน 4 ครั้ง
หรือ การที่ลูกเต๋าหงายหน้าหกจำนวน 4 ครั้งใน 4 ครั้ง
การทอดลูกเต๋า 1 ลูก 4 ครั้งนั้น
เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแน่ คือ การที่ลูกเต๋าไม่หงายหน้าหกเลย
เพราะหงายหน้าอื่น
หรือหงายหน้าหกอย่างน้อย 1 ครั้ง |

|
ฉะนั้นความน่าจะเป็นที่ลูกเต๋าไม่หงายหน้าหกเลย
รวมกับความน่าจะเป็น ที่ลูกเต๋าหงายหน้าหกอย่างน้อย 1 ครั้ง
จึงมีค่าเท่ากับ 1 ตามที่กล่าวแล้วในตอน แรก นั่นคือ
ความน่าจะเป็นที่ลูกเต๋าหงายหน้าหกอย่างน้อย 1 ครั้ง = 1 -
ความน่าจะเป็นที่ลูกเต๋า ไม่หงายหน้าหกเลย
= 1-(5/6)4 = 0.516
จะสังเกตเห็นว่าค่า 0.516 นี้เกินครึ่ง
จึงแสดงว่าโอกาสที่ลูกเต๋าหงายหน้าหก อย่างน้อย 1 ครั้งมีมาก
ในการทอดลูกเต๋า 1 ลูก 4 ครั้ง เชอวาลิเยร์จึงมีโอกาส
ชนะมากกว่าและเผอิญเขาโชคดีจึงชนะในครั้งนั้น ตามปกติเขาจะไม่ชนะทุกครั้งไป
เมื่อเชอวาลิเยร์พนันต่อไปว่า ในการทอดลูกเต๋า 2 ลูก 24 ครั้ง
หน้าหก จะต้องหงายพร้อมกันอย่างน้อย 1 ครั้งนั้น
ปาสกาลอธิบายว่า ในการทอดลูกเต๋า 2 ลูก ลูกเต๋าจะหงายได้ 36 วิธี คือ
ลูกที่ 1 หงายหน้าหนึ่งและลูกที่ 2 หงายหน้า หนึ่งหรือลูกที่ 1
หงายหน้าใดๆ ก็ได้ ตั้งแต่หน้าหนึ่งถึงหกและลูกที่ 2 หงายหน้า ใดๆ ก็ได้
ตั้งแต่หน้าหนึ่งถึงหน้าหกเช่นกัน |
 | ทำนองเดียวกันกับในตอนแรก
ความน่าจะเป็นที่ลูกเต๋าจะหงายหน้าหกทั้ง 2 ลูกอย่างน้อย 1 ครั้ง คือ 1-(35/36)24
= 0.491 ซึ่งไม่ถึงครึ่ง และน้อยกว่าค่าที่ได้ในการทอดลูกเต๋า 1 ลูก 4
ครั้ง ประกอบกับเขาโชคไม่ดีในการพนันครั้งนี้ ลูกเต๋าทั้ง 2
จึงไม่หงายหน้าหกพร้อมกันเลย ทั้งๆ ที่ถ้าเขาทอดลูกเต๋า 2 ลูกพร้อมกัน 24
ครั้ง เรื่อยๆ ไป เขาจะต้องได้ลูกเต๋า ทั้ง 2 หงายหน้าหกอย่างน้อย 1 ครั้ง
ปัญหาที่ 2 การแบ่งรางวัลในเกมที่ต้องหยุดเล่นก่อนกำหนด
ในเกมที่มีผู้เล่น
2 คน แต่ละคนมีโอกาสที่จะชนะเท่าๆ กัน ทั้งสองตกลงกันว่า ผู้ที่ชนะ 5
เกมเป็นคนแรก จะเป็นผู้ชนะในที่สุด แต่ปรากฏว่า เมื่อคนแรก ชนะได้ 4 เกม
และคนที่ 2 ชนะได้ 3 เกม ก็จำต้องหยุดเล่น จึงเกิดปัญหาว่า
จะแบ่งรางวัลอย่างไร จึงจะยุติธรรม
ปาสกาลได้อธิบายวิธีแบ่งโดยอาศัยหลักความน่าจะเป็นดังนี้ |  |
เพื่อให้โอกาสที่ทั้งสองจะชนะได้ จึงควรพิจารณาว่า ถ้าทั้งสองเล่นต่ออีก 2
เกม เพราะคนที่ 2 ชนะแล้ว 3 เกม ผลที่ได้มี 4 อย่าง คือ
1. คนที่ 1 ชนะทั้ง 2 เกม
2. คนที่ 2 ชนะทั้ง 2 เกม
3. คนที่ 1 ชนะเกมที่ 1 และคนที่ 2 ชนะเกมที่ 2
4. คนที่ 1 ชนะเกมที่ 2 และคนที่ 2 ชนะเกมที่ 1
จะเห็นว่าคนที่
2 จะมีโอกาสเป็นผู้ชนะเลิศก็ต่อเมื่อ เขาต้องเป็นผู้ชนะอีกทั้ง 2 เกม
ซึ่งจะมีโอกาสเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น แต่โอกาสที่คนที่ 1 จะเป็นผู้ชนะ
มีถึง 3 ใน 4 ฉะนั้นเมื่อต้องหยุดเล่นก่อนกำหนด คนที่ 1
จึงมีโอกาสได้รางวัล 3 ส่วน และคนที่ 2 ได้เพียง 1 ส่วน
เพราะโอกาสที่คนที่ 1 จะชนะมีเป็น 3 เท่า ของคนที่ 2
|
|