สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
เมนู 7
|
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๗ / เรื่องที่ ๒ ผีเสื้อ / รูปร่างลักษณะทั่วไปของผีเสื้อ
รูปร่างลักษณะทั่วไปของผีเสื้อ
รูปร่างลักษณะทั่วไปของผีเสื้อ
ผีเสื้อเป็นแมลงพวกหนึ่งแตกต่างจากพวกนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ
ตรงที่ไม่มีโครงกระดูกอยู่ภายใน ลำตัวประกอบด้วยวงแหวนหลายวงต่อกัน
เชื่อมยึดด้วยเยื่อบางๆ เพื่อการเคลื่อนไหวได้สะดวก
เปลือกนอกแข็งเป็นสารพวกไคทิน (chitin)
ภายในเปลือกแข็งเป็นที่ยึดของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคลื่อนที่
ลำตัวของผีเสื้อเป็นวงแหวนเชื่อมต่อกัน ๑๔ ปล้อง ปล้องแรกเป็นส่วนหัว
(head) ปล้องที่ ๒, ๓ และ ๔ เป็นส่วนอก (thorax)
และปล้องที่เหลือทั้งหมดเป็นส่วนท้อง (abdomen)
ส่วนหัวมีตารวม (compound eye) ใหญ่คู่หนึ่ง ตรง
บริเวณด้านข้างประกอบด้วยเลนส์เล็กๆหลายพันอัน ต่างจากตาของคนเรา
ที่มีเพียงเลนส์เดียว ตารวมรับภาพที่เคลื่อนที่ได้เร็ว
เราจึงพบว่าผีเสื้อบินได้ว่องไว จับตัวได้ยาก บางทีอาจพบมีตาเดี่ยว
(simple eye) ๒ ตา เชื่อกันว่า ใช้ในการรับรู้แสงว่า มืดหรือสว่าง
|

หนวดผีเสื้อชนิดต่างๆ
|
หนวดมี ๑ คู่ อยู่ระหว่างตารวม เป็นอวัยวะรูปยาวเรียว คล้ายเส้นด้าย
ต่อกันเป็นข้อๆ ทำหน้าที่รับความรู้สึกในการดมกลิ่น |
ข้างใต้ของส่วนหัว มีงวง
(proboscis) ใช้ดูดอาหารเหลวพวกน้ำหวานดอกไม้ และของเหลวอื่นๆ
งวงจะม้วนเป็นวง คล้ายลานนาฬิกาเวลาไม่ได้ใช้
และจะคลายเหยียดออกเวลากินอาหาร
งวงประกอบขึ้นด้วยหลอดรูปครึ่งวงกลม ๒
หลอด มาเกี่ยวกันไว้ทางด้านข้างด้วยขอเล็กๆ เรียงเป็นแถว
สองข้างของงวงมีอวัยวะที่ม ๓ ข้อต่อ
ซึ่งเป็นอวัยวะส่วนปากที่เหลืออยู่ เรียกว่า พัลพ์ (palp) ยื่นออกมา
ส่วนอกประกอบด้วยปล้องต่อกัน
๓ ปล้อง รอยต่อ ระหว่างปล้องมักไม่ค่อยชัดเจนนัก เนื่องจากมีเกล็ดสีปกคลุม
อก แต่ละปล้องมีขาปล้องละคู่ ส่วนปีกคู่หน้าและปีกคู่หลัง
ติดอยู่บนอกปล้องกลางและอกปล้องสุดท้าย
|
ปีกของผีเสื้อเป็นแผ่นเยื่อบางๆ ประกบกัน มีเส้นปีกเป็น
โครงร่างให้คงรูปอยู่ได้ ปกติผีเสื้อส่วนใหญ่จะมีเส้นปีกใน ปีกคู่หน้า ๑๒
เส้น และในปีกคู่หลัง ๙ เส้น การจัดเรียงของ
เส้นปีกเป็นลักษณะสำคัญในการแยกชนิดของผีเสื้อ
พื้นที่ที่อยู่ระหว่างเส้นปีกเรียกว่า ช่องปีก (space)
เรียกชื่อตามเส้นปีก
ที่พาดอยู่ตอนล่าง เช่น ช่องปีกที่อยู่ระหว่างเส้นปีกที่ ๓ กับ เส้นปีกที่
๔ เรียกว่า ช่องปีกที่ ๓ เกล็ดสีเล็กๆ บนปีกเรียงตัวกันเป็นแถว
ซ้อนกันแบบกระเบื้องมุงหลังคา นอกจากนี้ ยังมีเกล็ดพิเศษเรียกว่า
แอนโดรโคเนีย (androconia) เกล็ด
พิเศษนี้ตอนโคนต่อกับต่อมกลิ่น อาจอยู่กระจัดกระจายหรืออยู่เป็นกลุ่ม
เรียกว่า แถบเพศ (brand) ทำหน้าที่กระตุ้นความต้องการทางเพศของตัวเมีย
|

การเชื่อมยึดของปีก |
ผีเสื้อบางพวกอาจมีจำนวนเส้นปีกน้อยกว่า
หรือมากกว่า ๑๒ เส้น
บางพวกเหลือเพียง ๑๐ เส้น เส้นปีกส่วนมากจะเริ่มจากโคนปีก หรือจากเซลล์ปีก
เซลล์ปีกเป็นบริเวณที่ว่างรูปสามเหลี่ยมอยู่บริเวณกลางปีก
ค่อนไปทางด้านหน้า ถ้าปลายเซลล์มีเส้นปีกกั้นอยู่ เรียกว่า เซลล์ปีกปิด
แต่ถ้าไม่มีเส้นปีกกั้นเรียกว่า เซลล์ปีกเปิด
บางเส้นจะแตกสาขามาจากเส้นอื่น
ผีเสื้อในวงศ์ผีเสื้อบินเร็วมีเส้นปีกเป็นเส้นเดี่ยว ไม่มีการแตกสาขาเลย |

ขาหน้าของผีเสื้อกลางวัน |
ขาของผีเสื้อเป็นข้อๆซึ่งแต่ละขาแบ่งออกได้เป็น ๕ ส่วน
นับจากที่ติดกับลำตัว จะเป็นโคนขา (coxa) ข้อต่อโคนขา (trochanter) ต้นขา
(femur) ปลายขา (tibia) และข้อเท้า (tarsus)
มีเล็บเป็นจำนวนคู่ที่ปลายข้อเท้า
|
ผีเสื้อหลายวงศ์มีขาคู่หน้าเสื่อมไปมาก
จนไม่มีส่วนของข้อเท้า
เห็นเป็นกระจุกขนอยู่เป็นพู่ บางวงศ์จะพบลักษณะเช่นนี้ ในเพศผู้เท่านั้น
ผีเสื้อในวงศ์ผีเสื้อหางติ่งมีกระจุกขนเล็กๆ อยู่ทางตอนในของปลายขา
และผีเสื้อหนอนกะหล่ำมีเล็บถึง ๔ เล็บ แทนที่จะมีเพียง ๒
เล็บเหมือนผีเสื้ออื่นๆ
ส่วนท้องต่อมาจากส่วนอก รูปร่างยาวเรียว ค่อนข้าง อ่อนกว่าส่วนอก
ตอนปลายเป็นอวัยวะที่ใช้ในการสืบพันธุ์
อวัยวะสืบพันธุ์นี้ มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละชนิด จึงเป็น
ลักษณะสำคัญในการจำแนกผีเสื้อกลุ่มที่มีลักษณะภายนอกคล้าย กันมากๆ เช่น
ผีเสื้อเณร (สกุล Euma)
|
|